การถ่ายภาพคมชัด

ถ่ายภาพอย่างไรให้คมชัด

วันนี้เรามาดูเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มความคมชัดให้ภาพถ่ายของท่านให้คมชัดสุดๆ
1. ให้เช็คสปีดชัตเตอร์ทุกครั้งก่อนถ่ายภาพทุกครั้ง โดยทั่วไปแล้วนั้น หากท่านใช้สปีดชัตเตอร์ที่ต่ำมากๆ แน่นอนโอกาสที่จะได้ภาพที่เบลอย่อมมีสูงกว่าการใช้สปีดชัตเตอร์ที่สูง ดังนั้นแล้วก่อนจะถ่ายภาพก็ให้ท่านดูสักนิดว่า สปีดชัตเตอร์ที่เรากำลังใช้อยู่นั้นมีความเหมาะสมหรือมีความสัมพันธ์กับทางยาวโฟกัสตามกฎ 1/ทางยาวโฟกัสหรือไม่ ถ้าท่านเห็นว่าสปีดชัตเตอร์เริ่มต่ำลง ให้เพิ่ม ISO ให้สูงขึ้นเพื่อช่วยให้กล้องไวแสง เราจะได้สปีดกลับคืนมา 7 เคล็ด ไม่ลับ ถ่ายภาพอย่างไรให้คมชัดสุดๆ Tip : สำหรับการถ่ายภาพตอนกลางวันตอนแดดจัดๆ สปีดชัตเตอร์มักจะสูงเพียงพอที่จะได้ภาพที่คมชัดไม่เบลออยู่แล้ว ที่เหลือก็แค่ทำกล้องให้นิ่งก็พอ แต่สำหรับการถ่ายภาพตอนกลางคืนสปีตชัตเตอร์มักจะต่ำมาก สิ่งที่จะทำให้ภาพถ่ายคมชัด ควรเพิ่มค่า ISO ให้สูงขึ้น เพื่อให้ได้สปีดชัตเตอร์ที่เพียงพอ  
2 . ให้ใช้ขาตั้งกล้องทุกครั้ง  ขาตั้งกล้องเป็นอุปกรณ์ช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับเลนส์เป็นอย่างดี แน่นอนมันช่วยเพิ่มความนิ่งให้กับกล้องของท่าน แต่ทว่านักถ่ายภาพหลายๆ คน ก็ไม่ค่อยใช้กันสักเท่าใดนัก ด้วยเหตุผล ขี้เกียจแบกไปแบกมาด้วยความที่ขาตั้งกล้องก็มีน้ำหนักมากพอสมควร  แต่ถ้าเป็นตอนกลางวันหากมีแสงเพียงพอให้เราใช้สปีดชัตเตอร์สูงๆ ได้ ขาตั้งกล้องอาจจะไม่จำเป็นเท่าใดนัก แต่ในกรณีที่แสงเริ่มน้อยลง เช่นตอนพลบค่ำหรือตอนกลางคืน ขาตั้งกล้องมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะช่วยเพิ่มความนิ่งเข้ามา ซึ่งจะช่วยให้ถ่ายถาพใช้สปีดชัตเตอร์ที่ต่ำโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าภาพจะเบลอ และเราก็ไม่จำเป็นต้องปรับ ISO สูงเพื่อเข้ามาช่วยได้ และเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิด Noise ได้เป็นอย่างดีเลยที่เดียว  ดังนั้นแล้วถ้าต้องการจะถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตก หรือว่าถ่ายภาพตอนกลางคืน ขาตั้งกล้องสำคัญเป็นอย่างยิ่งอย่าพกไปด้วยหละ
3. ให้ใช้ระบบกันสั่นช่วย  กล้องหรือเลนส์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันมักจะมีระบบกันสั่นเป็นฟังชั่นเพิ่มเข้ามา ซึ่งจะช่วยให้เราใช้สปีดชัตเตอร์ที่ต่ำกว่าปกติได้ 2-4stop โดยที่ได้ภาพถ่านที่ไม่เบลอ ซึ่งเลนส์ที่มีระบบกันสั่นนี้มักจะมีราคาที่แพงกว่าชนิดอื่น แต่ก็มีประโยชน์มากเช่นเดียวกัน ระบบสั่นในกล้องหรือเลนส์จะทำการตรวจสอบความสั่นไหวในขณะที่เรากำลังถ่ายภาพ และทำการขยับชุดของเลนส์หรือเซนเซอร์เพื่อทำการชดเชยการสั่นไหวนั้น ทำให้ภาพที่เราถ่ายออกมานั้นมีความคมชัดยิ่งขึ้น ซึ่งกรณีที่เราเป็นคนขี้เกียจพกขาตั้งกล้องไปด้วย เราก็อาจซื้อหาชุดเลนส์ที่มีระบบการกันการสั่นไหว มาใช้ได้เพื่อลดปัญหา ถ่ายภาพออกมาแล้วเบลอได้ในระดับหนึ่ง Tips: เลนส์ที่มีระบบกันการสั่นไหวแน่นอนต้องใช้พลังงานของกล้องมากกว่าปกติอยู่แล้ว ดังนั้น ในกรณีที่มีแสงสว่างเพียงพอหรือมีการใช้ขาตั้งกล้อง ผู้ เขียนแนะนำให้ปิดระบบกันสั่นไว้ดีกว่านะจ๊ะ อย่างไรก็ตาม ระบบการสั่นในกล้องและเลนส์ไม่ได้เป็นการรับประกันว่า จะสามารถใช้สปีดชัตเตอน์ที่ได้ต่ำ 2-4stop โดยที่ภาพที่ออกมาจะไม่เบลออย่างแน่นอน
4. ให้เช็คจุดโฟกัสทุกครั้ง โดยก่อนที่เราจะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพแนะนำให้เช็คโฟกัสทุกครั้งว่าอยู่ถูกตำแหน่งหรือยัง ซึ่งตรงจุดโฟกัสให้ท่านสังเกตว่าจะเป็นจุดสีแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าท่านใช้เลนส์ซูมอยู่ก็ให้ลองซูมเข้าไปดูก่อนอีกครั้งเพื่อดูว่าโฟกัสได้คมชัดหรือยังแล้วจึงค่อยกดชัตเตอร์ และหลังจากถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ลองเปิดภาพดูแล้วซูมดูจุดต่างๆ ของภาพ ถ้าเบลอจะได้ถ่ายใหม่
5. ให้ใช้รูรับเสียงที่เหมาะสม  สำหรับในการภาพวิว ทิวทัศ นั้น ซึ่งเราต้องการภาพที่ชัดลึกทุกระยะ เราควรใช้รูรับแสงที่เหมาะสม  โดยหลายช่างภาพหลายๆ ท่านยังเข้าใจ ว่าคือการใช้รูรับแสงแคบสุดของเลนส์ เช่น f/22 หรือ f/32 เป็นต้น ก็เพราะได้ยินมาว่า การใช้รูรับแสงแคบจะได้ภาพที่ชัดลึก ก็เลยใช้แคบสุดตลอด ผลที่ได้คือ  ได้ภาพที่ไม่คมชัดเท่าที่คาดไว้  ซึ่งการใช้รูรับแสงที่แคบมากๆ นั้น แสงจะเข้าได้น้อยเกินไปจนในบางครั้งทำให้สปีดชัตเตอร์ต่ำตามไปด้วย ทำให้ได้ภาพที่ออกมาเบลอไป ซึ่งที่ถูกต้องแล้วคือ ควรใช้รูรับแสงที่ในช่วงกลางๆ ช่วง f/8-f16  ก็เพียงพอแล้ว เพราะเป็นช่วงที่ให้ความคมชัดสูงสุดของเลนส์ รวมทั้งยังไม่แคบจนเกินไปจนแสงเข้าได้น้อยด้วย
6. ให้ใช้ระบบบล็อกกระจกสะท้อนภาพ สำหรับในกล้อง DSLR จะมีฟังชั่นหนึ่งที่เรียกว่า  Mirror Lock-up ซึ่งฟังชั่นนี้จะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของกระจกสะท้อนภาพ ในระหว่างที่เรากดชัตเตอร์ๆได้ ซึ่งหากเราใช้สปีดชัตเตอร์ต่ำๆ เช่น 1 วินาทีลงไป แรงดีดของกระจกสะท้อนแสงอาจส่งผลต่อความคมชัดของภาพได้ หรือทำให้ภาพเบลอได้ ดังนั้นแล้ว หากเราใช้สปีดชัตเตอร์ที่ต่ำมากๆ หรือว่าถ่ายภาพ มาโคร แนะนำอย่างยิ่งให้เปิดใช้ฟังชั่นนี้ด้วยเสมอ
7. ให้ปรับพารามิเตอร์กล้องให้มีความเหมาะสม  หากอยากได้ภาพที่คมมากๆ ในกล้อง DSLR จะมีฟังชั่นสำหรับปรับลักษณะภาพ ซึ่งชื่อในการเรียกก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกล้องแต่ละยี่ห้อ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างกล้อง นิคอน จะมีชื่อเรียกว่า Picture Control สามารถเลือกปรับให้เมาะสมกับภาพที่จะถ่ายได้ ในกรณีที่อยากได้ภาพถ่ายที่คมชัดมากๆ ก็ลองปรับตรง พารามิเตอร์ที่ชื่อ Sharpen ให้เยอะๆ จะช่วยทำให้ภาพที่ออกมามีความคมชัดมากขึ้น แต่อย่าปรับให้มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ภาพคมเกินจนทำให้ขอบลอยซึ่งดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ
อ้างอิง http://camerastips.com/%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94-7.html