วิธีเก็บกล้อง

  1. กล้องดิจิตอลเมื่อใช้งานแล้วหยุดไม่ใช้ได้ครับ หลังจากที่เราได้ใช้งานกล้องไปแล้วผมแนะนำให้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ครั้งให้นำกล้องมาใช้งาน ถ่ายภาพเล่นๆ บ้างเนื่องจากเมื่ออะไรก็แล้วแต่ที่เคยผ่านการใช้งานมาแล้วจู่ๆ ไม่ใช้เลยมันก็อาจเสื่อมได้ครับ เคยมีลูกค้าซื้อกล้องไปใช้ครั้งเดียววันรับปริญญา แล้วก็เก็บเข้าตู้ใส่กล่องซะเรียบร้อยอีก 6 เดือนต่อมาเอามาใช้อีกที่ปรากฏว่าใช้ไม่ได้ซะแล้วส่งมาซ่อมเจอว่ากล้องมีเชื้อราขึ้น ระบบการทำงานก็ขัดข้องผมแนะนำว่าใช้เถอะครับไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วเดี๋ยวนี้ค่าฟิล์มก็ไม่ต้องซื้อให้เปลืองด้วยถ่ายโน่นบ้างนี้บ้างก็ใช้ไปเถอะครับ
  2. ถ้าไม่ได้ใช้เป็นเวลานานให้ถอดออกตรงนี้คิดว่าหลายท่านคงมีประสบการณ์ Battery เสื่อมจนเป็นน้ำเยื้อมออกมาคิดว่าทุกคนก็คงไม่อยากให้เกิดกับกล้องของเราใช่มั้ยครับ ดังนั้นป้องกันไว้ดีกว่า ถ้าไม่ได้ใช้ก็ถอดออกครับแต่ยังดีกว่ามาเสียตังค์ตอนส่งซ่อมครับผม
  3. อย่าเก็บกล้องใกล้ที่ที่มีอากาศชื้นหรือที่ร้อนมากๆ อันนี้คิดว่าทุกคนคงพอจะนึกภาพออกว่า ถ้าเราเอาอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคอะไรก็ได้ไปอยู่ในที่ที่มีความชื้น สิ่งที่จะตามมาก็คือสนิมครับ อาจจะเกิดขึ้นที่แผงวงจรหรือพวกมอเตอร์เลนส์ก็ได้ครับ ส่วนบริเวณที่มีความชื้นได้สูงอย่างเช่น บริเวณใต้แอร์ บริเวณที่ใกล้หน้าต่างเพราะจะมีทั้งลมหรือน้ำที่อาจซึมเข้ามาได้ครับ วิธีที่แนะนำในการเก็บกรณีที่เป็นกล้อง Compact ให้นำกล้องใส่ไว้ในกระเป๋ากล้องก่อน จากนั้นค่อยใส่ไว้ในถุงซิปสำหรับเก็บกล้องจากนั้นค่อยเอาสารดูดความชื้นใส่ตามลงไป แล้วปิดปากถุงให้สนิทครับ ถ้าเป็นกล้องDSLR ก็ให้ใส่สารดูดความชื้นไว้ที่ก้นกระเป๋ากล้องด้วย หรือถ้ามีกล้องและเลนส์อยู่หลายตัวผมแนะนำให้ซื้อตู้เก็บกล้องไว้สักตู้ครับ ลักษณะคล้ายๆตู้แช่ไวน์ครับแต่สามารถกันความชื้นได้ดี ต่อก็สถานที่ที่มีอากาศร้อนมากๆ อย่างในรถ ก็ไม่ควรครับเนื่องจากกล้องมาส่วนที่เป็นพลาสติกอยู่ไม่น้อยครับ รวมถึงพวกสปริง ถ้าชิ้นส่วนพวกนี้โดยความร้อนมากๆ ก็อาจทำให้เกิดการบิดตัวทำให้รูปร่างผิดเพี้ยนไปได้ ดังนั้นชื้นหรือร้อนมากก็ไม่ดีทั้งนั้นครับ
  4. อย่าทำกล้องตก ถ้าเป็นรุ่นกล้องฟิล์มสมัยเก่ามากอุปกรณ์ข้างส่วนใหญ่จะเป็นพวกกลไก ถ้าพลาดตกไปบางก็หาอะไหล่เปลี่ยนได้อยู่บ้าง แต่พอมาเป็นยุคดิจิตอลทุกอย่างเป็นอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคไปหมดถ้าตกแล้วล่ะก็โอกาสเครื่องรวนมีสูงมากครับ ครั้งแรกๆ อาจจะโชคดีไม่เป็นไรแต่บางที่ตกปุ๊บเสียปั๊บก็มีครับ แม้ว่าบางที่เราจะเก็บกล้องใส่กระเป๋าอย่างดีแล้วก็ตามครับ อันนี้ต้องระวังมากๆ เช่นกันครับ ผมแนะนำว่าทุกครั้งที่ใช้กล้องให้เอาสายคล้องคอหรือคล้องข้อมือไว้เสมอ แม้กระทั่งการส่งกล้องให้คนอื่นใช้ก็ตามให้คนที่รับต่อคล้องกล้องใส่คอหรือข้อมือทันที่ครับ ป้องกันไว้ก่อนเผื่อใครมาทักก็กระแทกกล้องเราจะได้ไม่หลุดมือครับ
  5. อย่าใช้มือ หรือผ้าที่ไม่สะอาดเช็ดหน้าเลนส์ เลนส์ของกล้องทุกรุ่น ทุกยี่ห้อมีการโค้ดหน้าเลนส์มาด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ว่าแต่ละยี่ห้อจะมีสูตรลับอย่างไร ถ้าเราเอามือไปโดนเข้าแน่นอนที่สุดหน้าเลนส์จะเป็นรอยนิ้วมือทันที ทำให้เราได้ภาพมัวไม่ชัด ต่อมาเรามักจะเอาผ้ามาเช็ดหน้าเลนส์ ที่นี้ถ้าเราเอาผ้าที่ไม่สะอาดมาเช็คอาจจะทำให้หน้าเลนส์เป็นรอยขนก็ได้ คราวนี้ล่ะครับเราจะได้ภาพที่ไม่ชัดไปตลอด ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องใส่แว่นอยู่แล้วเรื่องนี้จะเห็นภาพได้ชัดยิ่งขึ้นที่เวลาเราเช็ดแว่นแล้วใช้ชายเสื้อเช็ดๆเอา สุดท้ายจะได้รอยขนแมวที่หน้าเลนส์มาแทน
  6. เพิ่มเติมสำหรับคนที่ชอบเดินทางไปที่หนาวบ่อยๆ ผมขอยกตัวอย่างของผู้ที่ใส่แว่นอีกครั้งล่ะกันครับถ้าเราอยู่ในรถที่แอร์เย็นมากๆ พอออกมาข้างนอกแล้วเป็นอากาศร้อนสิ่งที่จะเกิดก็คือเลนส์เป็นฝ้า เช่นกันครับถ้ากล้องเราอยู่ในที่อุ่นๆ อย่างในรถที่มีการปรับอุณหภูมิไว้ต่อมาหัวหน้าทัวร์ก็เรียกให้เราลงไปชมสถานที่ท่องเที่ยวแต่เผอิญวันนั้นเป็นวันที่อากาศหนาว หรือมีหิมะตกสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ฝ้าที่หน้าเลนส์ ที่นี้เราก็รีบเอาผ้ามาถูๆ เพื่อให้ฝ้าหายแต่สิ่งที่ยังอยู่คือความชื้นครับ อาจมีโอกาสเกิดเป็นละอองน้ำภายในตัวกล้องหรือเลนส์ได้ครับ หรือสังเกตได้จากหยดน้ำข้างแก้วน้ำเย็นนั่นแหละครับ แล้วจะทำอย่างไรล่ะ Mr. D2H แนะนำเบื้องต้นอย่างนี้ครับให้เราทำการค่อยๆปรับอุณหภูมิกล้อง อย่างเช่นจากอุ่นไปที่เย็นก่อนที่จะที่หมายสัก 10 – 15 นาทีให้เอากล้องออกจากกระเป๋าไว้ก่อนเป็นอุณหภูมิเดียวกันกันรถจากนั้นก่อนลงรถก็ให้เอากล้องซุกไว้ในเสื้อนอกสักพักครับ แล้วค่อยๆ เอากล้องออกมาใช้งาน จุดสังเกตว่าเราปรับอุณหภูมิได้พอเหมาะพอดีหรือเปล่าก็คือ ฝ้าครับ ถ้าทำได้ดีไม่ควรมีฝ้าเกิดที่หน้าเลนส์ครับ ในกรณีกลับกันก็ทำกระบวนการย้อนกลับครับก่อนเก็บกล้องเข้ากระเป๋ากล้อง
  7. ป้องกันการเปิดหน้ากล้องแล้วทำให้ชุดเฟื่องเลนส์เสีย ก่อนทำการเก็บกล้องทุกครั้งผมแนะนำว่าให้ปรับฟังก์ชั่นไปที่การดูภาพทุกครั้งครับ เพื่อป้องกันการเปิดทำงานของกล้องขณะที่กล้องอยู่ในกระเป๋าครับ โดยเฉพาะกล้อง Compact ต่างๆ ลองจินตนาการตามนะครับปรกติเมื่อการกดเปิดกล้องชิ้นเลนส์ที่อยู่ข้างหน้าก็จะยื่นออกมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน (ยกเว้นกล้องตัวบางๆ ที่มีการซ่อนเลนส์ไว้ภายใน) ที่นี้ถ้าเราเอากล้องใส่กระเป๋าไว้แล้วเกิดไปกระแทกแล้วไปโดนปุ่มเปิดการทำงานโดนไม่ได้เจตนา เลนส์ก็พยายามที่ดันตัวออกมาแต่ออกไม่ได้เนื่องจากกระเป๋ากล้องเป็นตัวบังคับให้ออกมาไม่ได้ สิ่งที่ตามาก็คือชุดเฟื่องเลนส์เสียครับ และค่าใช้จ่ายในการซ่อมเท่าที่ผ่านมาก็อยู่ประมาณ 3,000 – 6,000 บาทครับ ไม่คุ้มมากๆ ถ้าเกิดขึ้นดังกันไว้ก่อนครับ
  8. การ Format การ์ด ผมแนะนำว่าให้ Format โดยใช้ฟังก์ชั่นในกล้องทำการ Format ครับอย่าไปใช้คอมพิวเตอร์ในการ Format ครับ ในรายละเอียดเรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจในเรื่องเทคนิคเท่าไรครับ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมามีอยู่หลายครั้งครับที่ Format การ์ดโดยคอมพิวเตอร์แล้วมาใช้ในกล้องไม่ได้ครับ

    อ้างอิง http://www.digital2home.com/tips/2007/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%96%E0%B8%B9/